วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2559

โกงกางใบเล็ก

โกงกางใบเล็ก

โกงกางใบเล็ก
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rhizophora apiculata BI.
วงศ์ : RHIZOPHORACEAE
ชื่ออื่น : โกงกาง (ระนอง): พังกาใบเล็ก (พังงา): พังกาทราย (กระบี่)
เป็นไม้ไม่ผลัดใบขนาดกลาง-ใหญ่ สูง 20-40 เมตร เปลือกสีเทาดำ ผิวเปลือกเรียบ แตกเป็นร่องเล็กตามยาวของลำต้น เด่นชัดกว่าร่องตามขวาง เมื่อทุบเปลือกทิ้งไวัสักครู่จะพบว่าด้านในของเปลือกเป็นสีแสดอมแดง เรือนยอดแคบรูปปิระมิด รอบๆ บริเวณโคนต้นมีรากค้ำจุน ทำหน้าที่พยุงลำต้น และมักมีรากอากาศ ชึ่งเกิดจากกิ่งตอนบนเป็นจำนวนมาก
ใบ เป็นใบเดียว เรียงตรงข้ามสลับทิศทางกัน แผ่นใบรูปรี หรือรูปขอบขนานแกมรี ขนาดใบ 4-8 X 7-18 เซนติเมตร ฐานใบสอบเข้าหากันคล้ายรูปลิ่ม ปลายใบแหลมมีติ่งแหลมอ่อน เส้นกลางใบด้านท้องใบสีแดงเรื่อๆ ก้านใบอ่อนสีแดง ยาว 1.5-3.5 เซนติเมตร หูใบที่ปลายยอดสีชมพูกึ่งแดง ยาว 4-8 เซนติเมตร ใบเกลี้ยง ท้องใบสีเขียวอมดำ มีจุดสีดำเล็กๆ กระจายอยู่เต็มท้องใบ
ดอก ช่อดอกเกิดที่ง่ามใบ ช่อหนึ่งๆ มี 2 ดอก ก้านช่อดอกใหญ่ ยาว 0.6-2 เซนติเมตร ไม่มีก้านดอกย่อย กลีบเลี้ยงรูปใข่ สีเขียวอมเหลือง 4 กลีบ เว้าเข้าด้านในปลายแหลม ขนาด 0.6-0.8 X 0.8-1.5 เซนติเมตร กลีบ ดอก 4 กลีบ ร่วงง่าย รูปใบหอกสีขาว ขนาด 0.1-0.2 X 0.7-1.2 เซนติเมตร ออกดอกในราวเดือนกันยายน-มกราคม
ผล รูปผลแพร์กลับ ผิวหยาบ ยาว 2-3 เซนติเมตร สีน้ำตาลเข้ม จะงอกตั้งแต่ผลยังติดอยู่บนต้น ลำต้นใต้ใบเลี้ยงชึ่งมักเรียกว่า "ฝัก" มีผิวเรียบ สีเขียว ขนาด 1-1.2 X 20-40 เซนติเมตร มักโค้งงอทางด้านปลายฝัก โคนฝักทู่ เมื่อฝักแก่ส่วนของใบเลี้ยงที่ยี่นออกมา ยาว 1-2 เซนติเมตร ที่อยู่ระหว่างผลและฝัก จะมีสีน้ำตาลแดง และฝักจะหลุดหล่นได้เอง ฝักแก่ในราวเดือนเมษายน-ธันวาคม
โกงกางใบเล็ก มักขึ้นได้ดีในบริเวณที่เป็นดินเลนอ่อน ไม่ลึกมากนัก มีน้ำทะเลท่วมกึงสมํ่าเสมอ โดยเฉพาะพื้นที่ติดทะเล ปากแม่น้ำ ลำคลอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น